มณีนพเก้า ประกอบด้วย เพชรดี มณีแดง ทับทิมเขียวใสแสงมรกต เหลืองใสสดบุษราคัมแดงแก่ก่ำโกเมน เอกสีหมอกเมฆนิลกาฬ ไพลินมุกดาหารหมอกมัว แดงสลัวเพทาย สังวาลย์สายไพฑูรย์
ตามความเชื่อที่ว่าอัญมณีแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในทางมงคล ป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆและขจัดความไม่เป็นมงคลทั้งหลายให้สิ้นไปได้หากผู้ใดมีไว้ในครอบครองก็เท่า กับมีมงคลไว้ติดตัว ทำสิ่งใดย่อมมีความสำเร็จ
คุณค่าของนพเก้าหรือนพรัตน์
เพชรยิ่งใหญ่ไพรีไม่มีกล้ำ ทับทิมนำอายุยืนเพิ่มพูนผล
อุดมลาภยศศักดิ์ประจักษ์ดล มรกตกันภัยพ้นผองเล็บงา
บุษราคัมฉาบเสน่ห์ไม่เสแสร้ง โกเมนแจ้งแคล้วพาลภัยใจสุขา
ไพลินย้ำความร่ำรวยช่วยนำพา มุกดาหารเสน่หาน่าเมียงมอง
อันเพทายช่วยกันโทษที่โฉดเขลา ไพฑูรย์เล่ากันฟอนไฟภัยทั้งผอง
ดลบันดาลให้เทวามาคุ้มครอง สบสนองคุณค่าแจ้งแห่งนพรัตน์
“นพเก้า” หรือ “นพรัตน์” เป็นอัญมณี 9 ชนิด ที่ถือกันว่าถ้าผู้ใดมีไว้ครบทั้งหมดก็จะเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุด ประดับด้วยเพชรและพลอยสำคัญอีก 8 ชนิด คือ ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน นิลกาฬ (ไพลิน) มุกดาหาร เพทายและไพฑูรย์ ครบทุกชนิดตามโบราณราชประเพณี “ความเชื่อ” ของผู้คนที่มีมาแต่โบราณกาลว่า อัญมณีหรือเพชรพลอยทั้ง 9 ชนิดที่เรียกว่า “นพรัตน์” นั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ของดาวนพเคราะห์ ถือเป็นของสูง เป็นสิริมงคลแก่ผู้เป็นเจ้าของ ใครมีไว้ก็ล้วนแต่เจริญรุ่งเรืองด้วยประการทั้งปวง เลิศด้วยความดีงามทั้งปวง
เรื่องของอัญมณีโดยเฉพาะแก้วเก้าประการ คนไทยโดยทั่วไปนิยมเลื่อมใสนับถือเป็นของมีค่าสูงและเป็นสิริมงคล นำมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านศาสนา และในสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่น ทำเป็นพระพุทธ รูปต่าง ๆ ตลอดจนใช้ประดับเครื่องทรงและที่ประทับ ใช้เป็นเครื่องประดับแสดงถึงตำแหน่งและเกียรติยศ เครื่องราชูปโภคในพระราชพิธีสำคัญ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตลอดจนสิ่งของเครื่องใช้ของที่เป็นบำเหน็จรางวัล เครื่องประดับต่าง ๆ ของพระราชวงศ์ ขุนนาง และข้าราชการชั้นสูง ประชาชนโดยทั่วไปทุกระดับชั้นก็สามารถหามาใช้ได้ตามกำลังฐานะ นอกจากเพื่อความสวยงาม และความเป็นสิริมงคลต่าง ๆ แล้ ว ก็ยังใช้เป็นหลักทรัพย์ที่ถือเป็นมรดกสืบทอดแก่ทายาทในวงศ์ตระกูล เป็นของกำนัลตอบแทนผู้มีน้ำใจช่วยเหลือยามที่เคยตกยาก
ความหมายอันเป็นสิริมงคล
เพชร สิริมงคล คือ เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ มีชัยแก่ศัตรู ร่ำรวย
มณี (ทับทิม) สิริมงคลคือ ความสำเร็จ ลาภยศ อายุยืน
มรกต สิริมงคลคือ ความศรัทธา กล้าหาญ ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง
บุษราคัม สิริมงคลคือ มีเสน่ห์เป็นที่รัก
โกเมน สิริมงคลคือ สุขภาพดี อายุยืนนาน
นิลกาฬ (ไพลิน) สิริมงคลคือ ความรัก ความเมตตากรุณา ความร่ำรวย
มุกดาหาร สิริมงคลคือ ความบริสุทธิ์ ร่มเย็น และชนะแก่ศัตรู
เพทาย สิริมงคลคือ ความร่ำรวย ชนะคดีความ
ไพฑูรย์ สิริมงคลคือ เทวดาคุ้มครอง ป้องกันฟืนไฟ
ในตำราพรหมชาติซึ่งเป็นตำราโหร กล่าวไว้ว่า นพรัตน์เป็นสิ่งมงคล หากจะใช้ควรเลือกให้เหมาะกับบุคคลมิฉะนั้นจะเกิดโทษ ดังนั้นแล้ววิธีการเลือกสวมใส่มีหลักดังนี้
ผู้เกิดปีชวดและปีระกา ควรประดับ โกเมน
ปีฉลูและปีมะแม ควรประดับ มุกดา
ปีขาล ควรประดับ เพทาย
ปีเถาะ ควรประดับ ไพฑูรย์ หรือมรกต
ปีมะโรงและปีกุน ควรประดับ ไพฑูรย์
ปีมะเส็ง ควรประดับ เพชร
ปีมะเมีย ควรประดับ นิล
ปีวอก ควรประดับ บุษราคัม
ปีจอ ควรประดับ มรกต
คนโบราณมักนิยมนำพลอยนพเก้ามาทำเป็นแหวน โดยเรียกว่า “แหวนนพเก้า” หรือ (แหวนนพรัตน์) แหวนนพเก้า เป็นแหวนสูงค่าที่รู้จักกันดีมานานนับร้อยปี ตามความเชื่อที่ว่า อัญมณีแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในทางมงคล ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ และขจัดความไม่เป็น มงคลทั้งหลายให้สิ้นไปได้ หากผู้ใดมีไว้ในครอบครอง ก็เท่ากับมีมงคลไว้ติดตัว ทำสิ่งใดย่อมมี ความสำเร็จ ด้วยเหตุที่แหวนนพเก้ามีทั้ง ความงามและคุณค่าในตัวเอง โดยแทบไม่ต้องปรุงแต่ง นับแต่ โบราณมาแล้ว คนไทยได้รับอิทธิพลความเชื่อของอัญมณี 9 ชนิดนี้มาจากอินเดีย แต่ไม่ ปรากฏแน่ชัดว่า เข้ามามีอิทธิพลเมื่อไร ด้วยเหตุที่คนอินเดียมี วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีอันยาวนาน เขาจึงรู้ คุณค่า และความสวยงาม ของอัญมณี 9 ชนิดนี้เป็นอย่างดี ทั้งยังนำไปเกี่ยวข้องและเกี่ยวพันกับดวงดาว ในระบบสุริยะจักรวาลและเทพ ประจำดวงดาว ซึ่งมีอำนาจและพลังเป็นคุณวิเศษ ที่จะนำพาความเจริญ รุ่งเรือง และสิริมงคลทั้งหลาย มาสู่ผู้สวม ใส่ นอกจากนี้ยังมีพลังแห่งการรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ด้วย ไม่เพียง เท่านี้ ชาวตะวันตก ชาวอียิปต์โบราณ ชาวจีน หรือแม้แต่ชาวป่าเผ่าต่างๆ ก็มีความเชื่อถือในพลังของอัญมณี เหล่านี้เช่นกัน
หน้าที่เข้าชม | 502,229 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 358,142 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 ม.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |